Menu

อาการนอนกรนแก้ได้อย่างไรบ้าง

นอนกรนเกิดจากอะไร
เกิดจากการหย่อนตัวของกล้ามเนื้อบริเวณคอหอย และผนังลำคอขณะหลับ ทำให้เกิดการอุดกั้นระบบทางเดินหายใจในบางจุดจนเกิดการสั่นสะเทือนของกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อ เพดานอ่อน ผนังคอหอย โคนลิ้น รวมไปถึงลิ้นไก่ เมื่อระบบทางเดินหายใจแคบลงการหายใจผ่านบริเวณดังกล่าวจึงทำให้เกิดเสียงกลายเป็นการนอนกรนในที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถรุนแรงต่อการหายใจทำให้ไม่สามารถหายใจได้ชั่วขณะหนึ่งหรือเรียกว่า 
“ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ”

ใครบ้างที่มีความเสี่ยงภาวะนอนกรน

ภาวะนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย อาจกล่าวได้ว่าผู้ที่มีอาการนอนกรนอาจมีความเสี่ยงต่อภาวะหยุดหายใจขณะหลับด้วย ได้แก่
- พบได้ในเพศชายมากกว่าเพศหญิง
- พบได้ในเพศหญิงส่วนมากในวัยหมดประจำเดือน
- ผู้ที่มีรูปหน้าเบี้ยว คางผิดปกติ หรือจมูกคด
- โครงสร้างของช่องจมูกแคบ
- มีน้ำหนักเกินมาตรฐานมีผลทำให้ทางเดินหายใจแคบจนเกิดอาการนอนกรนได้
- ผู้ที่มีโรคทางหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไต โรคภูมิแพ้
- การทานยาที่ส่งผลต่อการหย่อนตัวของกล้ามเนื้อ

นอนกรนอย่างไรควรเข้าพบแพทย์
ผู้ที่เป็นภาวะนี้จะมีอาการโดยรวมไม่ใช่เพียงแค่การนอนกรนเท่านั้น ผู้ป่วยอาจมีอาการสะดุ้งตื่นกลางดึกเพื่อหาอากาศหายใจ และส่งผลให้มีอาการอ่อนเพลีย เวียนศีรษะในตอนเช้า ง่วงระหว่างวัน และบางรายอาจมีความต้องการทางเพศลดลง หากมีอาการดังกล่าวไม่ควรปล่อยไว้ควรเข้ารับการตรวจโดยแพทย์เพื่อวินิจฉัยอาการนอนกรนต่อไป

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับอันตรายสูงสุดจากการนอนกรน
หากเป็นภาวะหยุดหายใจขณะหลับในระดับที่รุนแรงจะส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่เสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้ผ่านทางปัญหาโรคหลอดเลือดหัวใจ หรือโรคหัวใจวาย เป็นต้น หรือถ้าหากผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจอยู่แล้วจะยิ่งเพิ่มโอกาสเสียชีวิตขณะหลับได้

การวินิจฉัยอาการนอนกรน
แพทย์จะทำการซักถามประวัติอาการ ร่วมกับการตรวจวินิจฉัยอวัยวะอื่น ๆ ผ่านการเอกซเรย์ เช่น กะโหลก กระดูกใบหน้า เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถวินิจฉัยอาการนอนกรนได้จากการตรวจการนอนหลับ (Polysomnography) หรือที่เรารู้จักกันดีว่า Sleep Test หากพบว่าอาการดังกล่าวไม่ได้มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับระดับรุนแรงร่วมด้วย ยังถือว่าไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่ถ้าหากพบว่ามีความเสี่ยงในระดับที่อันตรายต้องหาแนวทางในการรักษาโดยเร็วที่สุด

การแก้ไขปัญหาการนอนกรนเบื้องต้น
หากพบว่าอาการนอนกรนไม่ได้อยู่ในระดับที่อันตรายสามารถแก้ไขอาการเบื้องต้นได้ ดังนี้
- ปรับเปลี่ยนท่านอนให้ศีรษะอยู่สูงกว่าลำตัว
- รักษาน้ำหนักให้ได้ตามมาตรฐาน
- งดการสูบบุหรี่ และการดื่มแอลกอฮอล์
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
- ปรับการนอนให้ได้ 7-8 ชั่วโมงต่อวัน
- หลีกเลี่ยงยาที่ทำให้ง่วงนอน

โพสต์โดย : POPCORN POPCORN เมื่อ 16 ก.พ. 2567 18:23:05 น. อ่าน 15 ตอบ 0

facebook